ภายในสวนไผ้ทิพย์ แปลงที่ 1 เนื้อที่ 5 ไร่

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

เทคนิคสร้างรายได้จากการปลูกไผ่เลี้ยงเป็นกอบเป็นกำ

ปลูกไผ่เลี้ยง 5 ไร่ สามารถทำเงินได้ถืง 150,000 บาท ต่อปี (หนื่งแสนห้าหมื่นบาท) ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่แพ้การปลูกพืชชนิดอื่น ในการปลูกไผ่เลี้ยงให้สามารถทำรายได้ตามที่กล่าวข้างต้นนั้น มีเทคนิคและปัจจัยที่ต้องคำนึง ดังนี้

ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนลงมือทำสวนไผ่

  • ตลาด ลงทุนลงแรงไปแล้วขายไม่ได้จะทำให้เหนื่อยทำไม ตลาดหรือสถานที่จำหน่ายผลผลิต หรืออาจจะหมายถึงกลุ่มลูกค้าผู้บริโภค จะขายที่ไหน ขายอย่างไร(ขายส่ง-ปลีก) ขายเมื่อไหร่ ขายให้ใคร รองรับผลผลิตทั้งหมดจากสวนเราได้รือไม่
  • ต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นค่าเตรียมพื้นที่ กิ่งพันธุ์ ระบบน้ำ ตลอดจนต้นทุนการดูแลรักษา
  • การคมนาคม หรือระยะทางจากสวนถึงสถานที่จำหน่าย ใกล้-ไกล ต้องคำนึงเพราะจะส่งผลถึงต้นทุนการขนส่งหรือต้นทุนการขาย
  • ข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลจริงจากแหล่งปลูก เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น งานเกษตร เป็นงานที่หนัก ผลตอบแทนไม่สูงเหมือนธุรกิจอย่างอื่น

หลังจากที่ได้ทำการวิเคราะห์หรือทำการพินิจพิจารณาปัจจัยต่างๆตามที่กล่าวข้างต้นจนได้ข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจเป็นที่แน่นอนแล้ว ขั้นต่อไปก็คือชั้นตอนการวางแผนการปลูก

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552

วิธีปลูกไผ่เลี้ยง

การปลูกไผ่เลี้ยง
ในปีแรกของการปลูกไผ่เลี้ยง จะให้ผลผลิปริมาณน้อย เนื่องจากสาเหตุที่ต้นแม่ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร หรือลำแม่ยังไม่เจริญเต็มที่ เนื่องจากต้นแม่ที่พร้อมเต็มที่ต้องมีอายุประมาณ 1 ปี ขึ้นไป ซึ่งในการเก็บต้นแม่ของไผ่เลี้ยงในปีแรกที่ปลูก ควรเลือกหน่อที่สมบูรณ์ที่สุด ไว้ประมาณ 3-4 ต้น และควรเปลี่ยนต้นแม่ทุก 2-3 ปี (หากมีการจดบันทึกปริมาณผลผลิต จะทำให้ทราบว่าเมื่อต้นแม่อายุมากจะให้ผลผลิตหน่อลดลง) ในแต่ละกอควรมีต้นแม่ไม่เกิน 4 ต้น เป็นอย่างมาก ซึ่งในการเปลี่ยนต้นแม่อาจจะเปลี่ยนปีละ 2 ต้น เพื่อให้การสับเปลี่ยนและการหมุนเวียนการเกิดหน่อเป็นไปอย่างสมบูรณ์ สำหรับการตัดหน่อ ควรตัดให้สูงกว่าพื้นดินประมาณ 1-2 ซม. เพื่อให้ตาของต่อเก่าได้หายใจ และจะมีตาฝังในดินเหลือพอสำหรับการออกหน่อรุ่นต่อไป
การตัดแต่งกิ่งและการให้ปุ๋ยไผ่เลี้ยง
หลังจากปลูกไผ่เลี้ยงลงแปลง เมื่อถึงเดือนที่ 7 หลังจากปลูกควรจะตัดแต่งกิ่งที่เล็กและตัดตอเก่าออกให้เหลือเพียง 6-8 ลำ ต่อกอ โดยคัดเลือกลำที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร ขึ้นไป เดือนที่ 8 เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้บ้าง เทคนิคการตัดแต่งกิ่งไผ่เลี้ยงที่สำคัญอยู่ในปีที่ 2 ตัดแต่งเอากิ่งแขนงเล็กๆ ออก ในแต่ละกอจะไว้ลำแก่ไม่เกิน 12 ลำ จะตัดแต่งในช่วงปลายเดือนธันวาคม หลังจากตัดแต่งเสร็จจะให้ปุ๋ยและน้ำทันที หลังจากนั้นให้ใส่ปุ๋ยและให้น้ำทันที เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้น จะมีหน่อให้เก็บเกี่ยวได้ตลอดตั้งแต่หน้าแล้งไปจนถึงช่วงฤดูฝนโดยยึดหลักการเก็บเกี่ยว หน่อที่มีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ในช่วงหน้าแล้งและเก็บหน่อที่มีความยาว 50 เซนติเมตร ในช่วงฤดูฝน (เมื่อหัวหน่อโผล่พ้นดินขึ้นมาและนับไปอีกประมาณ 3-4 วัน ก็เก็บได้แล้ว)ในเรื่องของการให้ปุ๋ยสำหรับการผลิตไผ่เลี้ยงนอกฤดูนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ หลังจากที่ตัดแต่งเสร็จจะใส่ปุ๋ยคอก เช่น มูลหมูหรือมูลไก่แห้งในอัตรากอละประมาณ 20 กิโลกรัม และจะใส่ปุ๋ยคอกเพียงปีละครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์ ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 16-16-16 หรือ สูตร 30-11-11 หรือสูตร 46-0-0 อัตรา 1-2 กำมือ ต่อต้น ในแต่ละเดือนจะต้องใส่ปุ๋ยเคมี 2 ครั้ง โดยจะใช้สูตรปุ๋ยดังกล่าวให้สลับกันไปมาก็ได้ปลูก

ไผ่เลี้ยงเป็นการผลิตพืชแบบปลอดสารพิษ ไม่มีการใช้สารปราบศัตรูพืชหลายคนทราบดีว่า การปลูกไผ่เกือบทุกชนิดจะไม่มีการใช้สารปราบศัตรูพืชเลย และหน่อไม้จัดเป็นพืชผักที่ปลอดสารพิษอีกชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ในการปลูกไผ่เลี้ยงในเชิงพาณิชย์ของสวนนี้ก็เช่นกัน จะไม่มีการใช้ยาฆ่าหญ้าเพื่อกำจัดวัชพืช สำหรับการปลูกไผ่เลี้ยงอาจจะพบปัญหาเรื่องเพลี้ยแป้งหรือด้วงปีกแข็งระบาดทำลายบ้าง แต่ทางสวนจะ ไม่มีการฉีดพ่นสารฆ่าแมลงเลย ถ้ามีเพลี้ยแป้งให้น้ำสมบูรณ์เต็มที่การระบาดก็ลดน้อยลง
วงจรการปลูกไผ่เลี้ยง
เดือนกุมภาพันธุ์-มีนาคม ขยายพันธุ์ไผ่เลี้ยง แทงเหง้ามาชำ (ในกรณีที่ต้องการขยายพันธุ์เพื่อปลูกหรือจำหน่าย)

เดือนธันวาคม เริ่มตัดแต่งกิ่งและสางต้น (ใกรณีต้องการเก็บหน่อสดจำหน่ายอย่างเดียว) เดือนมกราคมใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี และให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
เดือนกุมภาพันธ์-กันยายนเก็บหน่อไม้นอกฤดูส่งขายตลาด

กลางเดือนกันยายน-ธันวาคม ไผ่เริ่มพักตัว ทิ้งใบ